[เอโคฮุน] เหนือกว่าความหายนะทางการเมืองของเกาหลีด้วยความรัก

“ตอนนี้เวลา 11.22 น. ครับ” “พิพากษาให้ถอดถอนประธานาธิบดียุนซอกยอล” ผมดูการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญกับภรรยาที่ลานจอดรถของอีมาร์ท เมื่อได้ยินคำตัดสินสุดท้ายแล้วรู้สึกใจหายจริงๆ

ภายใน 10 ปี ประเทศเกาหลีใต้ได้พบกับโศกนาฏกรรมทางประวัติศาสตร์การปกครองถึง 2 ครั้งที่ประธานาธิบดีถูกถอดถอน เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจมาก การที่เราได้เลือกประธานาธิบดีด้วยมือของเราเองนั้น ต้องแลกมาด้วยการเสียสละมามากมายตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา และด้วยการเสียสละนั้นเองที่เราสร้างประชาธิปไตยขึ้นมา ประเทศเกาหลีใต้ในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นมาด้วยน้ำมือของประชาชนเราเอง

แต่การถอดถอนเกิดขึ้นจากความผิดพลาดหรือความทะเยอทะยานส่วนตัวของประธานาธิบดี และได้รับการรับรองจากศาลรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ของเกาหลีใต้ที่สับสนอลหม่านกว่าที่เคยเป็นมา ได้คลี่คลายลงบ้างแล้วด้วยคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ความรู้สึกเสียใจและโล่งใจปะปนกันอยู่

เราไม่ควรประเมินเหตุการณ์ครั้งนี้และคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญเพียงแค่ผลลัพธ์เท่านั้น

มุนฮยองเบผู้รักษาการประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ส่งสารสลับไปมาระหว่างสภาและฝ่ายประธานาธิบดี เป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ดูเหมือนกับว่าคนที่อยู่ตรงกลางระหว่างสองฝ่ายกำลังดุทั้งสองฝ่ายอยู่

✅ข้อความถึงฝ่ายค้าน

เกี่ยวกับฝ่ายค้านนั้น นโยบายที่รัฐบาลพยายามจะดำเนินการนั้นไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากการลงมติคัดค้าน และฝ่ายค้านก็ได้ผ่านนโยบายที่รัฐบาลคัดค้านไปอย่างฝ่ายเดียว ทำให้เกิดการขอทบทวนและการลงมติร่างกฎหมายซ้ำๆ จากฝ่ายที่ถูกกล่าวหา ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาคงรู้สึกว่าการบริหารประเทศหยุดชะงักและผลประโยชน์ของชาติเสียหาย จึงรู้สึกว่าต้องแก้ไขปัญหานี้ ความคิดของฝ่ายที่ถูกกล่าวหาที่ว่าการบริหารประเทศหยุดชะงักนั้น ควรได้รับการเคารพในทางการเมือง

แต่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายที่ถูกกล่าวหาและสภาไม่สามารถมองได้ว่าเป็นความรับผิดชอบฝ่ายเดียว และควรแก้ไขโดยหลักการของประชาธิปไตย

การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือมติอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้ ควรกระทำภายในขอบเขตที่สอดคล้องกับประชาธิปไตยที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ

สภาควรเคารพความคิดเห็นของฝ่ายน้อย และควรพยายามหาข้อสรุปผ่านการเจรจาและการประนีประนอมโดยยึดหลักความอดทนและการควบคุมตนเองในความสัมพันธ์กับรัฐบาล

✅ข้อความถึงฝ่ายที่ถูกกล่าวหา

ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาก็ควรเคารพสภาในฐานะคู่เจรจาเช่นกัน แต่ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาได้ละเลยสภา ซึ่งเป็นการทำลายหลักการของการเมืองแบบประชาธิปไตย และถือว่าไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตย แม้ว่าฝ่ายที่ถูกกล่าวหาจะคิดว่าการกระทำของสภาเป็นการใช้อำนาจของฝ่ายมาก แต่ก็ควรใช้มาตรการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพื่อให้เกิดการตรวจสอบและถ่วงดุล

ฝ่ายที่ถูกกล่าวหามีโอกาสที่จะโน้มน้าวประชาชนให้สนับสนุนการบริหารประเทศของตนเองในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จัดขึ้นประมาณ 2 ปีหลังจากเข้ารับตำแหน่ง แต่แม้ว่าผลลัพธ์จะไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาตั้งใจไว้ ก็ไม่ควรพยายามที่จะเพิกเฉยต่อความคิดเห็นของประชาชนที่สนับสนุนฝ่ายค้าน ในฐานะประธานาธิบดีของประชาชนทุกคน ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาควรจะรวมกลุ่มคนในสังคมโดยไม่ละเลยประชาชนที่สนับสนุนตนเอง ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาได้ละเลยหน้าที่ในการปกป้องรัฐธรรมนูญและทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนเกาหลีใต้ผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างร้ายแรง

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและพรรคการเมืองกล่าวว่าพวกเขาทำงานเพื่อประโยชน์ของพรรค แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาควรทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดคือประชาธิปไตย รากฐานของประชาธิปไตยคือประชาชน และการกระทำที่นำประชาชนไปสู่ความสับสนควรหลีกเลี่ยง

แม้ว่าผลประโยชน์ของพรรคการเมืองจะเป็นเช่นนั้น แต่หากขัดต่อประโยชน์ของประชาชนก็ไม่ควรทำ แม้ว่าวาระการดำรงตำแหน่งของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือชีวิตการเมืองของพวกเขาจะสิ้นสุดลง แต่การพยายามทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการควรเป็นหน้าที่สำคัญที่สุด

ทั้งสภาและประธานาธิบดีมีความรับผิดชอบ ขอให้พวกเขาทำงานอย่างเต็มที่เพื่อปกครองประเทศโดยคำนึงถึงประชาชนและผลประโยชน์ของประเทศด้วยหลักการแห่งความปรองดอง การเอาใจใส่ การยอมรับ และความรักในอนาคต